สายช้อป สายสกินแคร์และเครื่องสำอางญี่ปุ่นต้องไม่พลาดจ้าวันนี้เจ้ขอนำเสนอ “35 ไอเทมสกินแคร์ & เครื่องสำอางในญี่ปุ่น 2018 ต้องไม่พลาด (ตอนที่ 1)” เผลอแป๊บเดียวเวลาก็จะผ่านกันไปครึ่งปีแล้วนะคะเรามาอัพเดทกันหน่อยดีกว่าค่ะ ว่าที่ญี่ปุ่นมีสินค้า ในหมวดหมู่สกินแคร์ และ เครื่องสำอาง ที่ขายในร้านขายยามีไอเทมไหนบ้างที่น่าไปซื้อ น่าไปตำ กันกลับมาบ้าง เอาจริง ๆ สินค้าบางตัวก็มีขายที่ไทยแล้วถ้าใครไม่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ไม่ต้องวอแวนะคะ ส่วนใครที่มาญี่ปุ่นก็ ลุยกันค่ะ
ปล.ขออนุญาตแบ่งลงเป็นตอน ๆ นะคะ เพราะว่าเยอะมากจริง ๆ เขียนแต่ละทีหมดพลังไปเยอะเลย อ่านจบแล้วอย่าลืมติดตามอ่าน ตอนที่ 2 ด้วยนะคะ …เริ่มได้จ้า
1.หัวเชื้อไฮยาลูลอน
สินค้าที่ฮิตติดอันดับชนิดที่ว่าต้องมีอยู่ในแทบจะทุกตระกร้าของสาว ๆ ที่มาช้อปปิ้งก็คือ “หัวเชื้อไฮยาลูลอน” ที่มีความเข้มข้นสูง เพราะสรรพคุณทำให้หน้าขาวใส เด้ง นุ่มฟู ลดริ้วรอยและช่วยทำให้รูขุมขนกระชับ ที่สำคัญช่วยทำให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้น ได้มากกว่าปกติหลายเท่า เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ผิวของเราก็จะเปล่งปลั่ง อิ่มน้ำ (ผิวหน้านะคะ ไม่ใช่ตัว อิอิ) และยังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ผิวหนัง ได้เร็วกว่าเดิม ถึง 80% อีกด้วยค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้มาแบบลอย ๆ ที่ใครจะมโนขึ้นมาเองนะคะ เพื่อน ๆ อย่าเพิ่งเชื่อ จนกว่าจะได้ลองใช้เอง เพราะนางได้รางวัลการันตีจาก Cosme เอาล่ะค่ะเห็นบางคนชอบ มาถามบ่อย ๆ ว่าหาซื้อยาก หาไม่เจอบ้าง
วิธีใช้ : นำไฮยาลูลอนเข้มข้น 1หยด ผสมกับสกินแคร์ที่เราใช้เป็นประจำ ทาลงบนใบหน้า บำรุงผิวเช้า เย็น เป็นประจำ หรือจะผสมกับแชมพู ,ผสมกับมาส์กก่อนมาส์กหน้า, ผสมรองพื้นก่อนแต่งหน้าเพื่อความติดทน&บำรุงไปในตัว หรือจะหยดลงน้ำผสมเพื่อแช่อาบ ก็ย่อมได้ค่ะ
ความเห็นส่วนตัว☝ หลังจากใช้มา 2 เดือนนิด ๆ รู้สึกได้ถึงความนุ่มเด้ง รูขุมขนเล็กลง แต่งหน้าติดง่าย แม้ร่างกายจะป่วยแต่หน้าก็ไม่โทรมเลยค่ะ ในส่วนของลดเลือนริ้วรอย ก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนะคะอาจจะต้องใช้เวลานานกว่านี้สักหน่อย แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือ หน้านุ่ม เด้ง ฟู ดูเปล่งปลั่งสดใสจริง ๆ
สนนราคา : 10มล. 500¥ , และเซ็ต 80มล. + 10มล. X2 ราคา 3,800¥
พิกัด : หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องสำอาง, ร้านดองกี้, ร้าน @ Cosme
พิกัดร้าน @Cosme : Sunshine City ชั้น B1F ลงสถานีรถไฟ Nishi-Ikebukuro
ร้าน @ Cosme สาขาอื่น ๆ ดูได้จาก ที่นี่ ค่ะ
2.Saborino Facial Morning Mask
เป็นมาส์กหน้าสำหรับตอนเช้าค่ะ แผ่นมาสก์ทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าที่จะ เติมความสดชื่น กระชับ ชุ่มชี่นให้ผิวได้ง่ายๆ ที่สำคัญสะดวกรวดเร็วใช้งานง่าย ไวปานวอกจริงๆ ค่ะ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่มาส์กทิ้งไว้ 1 นาที จะรู้สึกถึงความเย็นสดชื่น รับรองว่าใครเมาขี้ตาต้องตื่น อย่างแน่นวล!!! หลังจากมาส์กเสร็จ ก็ลงครีมกันแดด และประโคมด้วยการแต่งหน้า ต่อได้เลยจ้า!!!
ซึ่งมาส์กตัวนี้เป็นตัวช่วยประหยัดเวลาที่นางมาครบทุกขั้นตอนตั้งแต่ล้างหน้าไปจนถึงบำรุงผิว แล้วยังช่วยให้การแต่งหน้าติดทนยิ่งขึ้น พร้อมกับทั้งขจัดคราบสกปรก และเซลล์ผิวเก่า ด้วยสารจากธรรมชาติหลายชนิดที่เป็นเสมือนอาหารผิวในตอนเช้า และบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้น ด้วย Vitamin C มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
เรียกว่าใช้เพียงแผ่นเดียว สามารถปรนนิบัติผิวได้ถึง 3 ขั้นตอน ตั้งแต่ล้างหน้า โทนเนอร์ และ บำรุงผิว
FACE WASH + TONER + MOISTURIZER
มาดูกันค่ะว่าในมาส์ก 1 แผ่นมีอะไร และให้อะไรบ้าง
- Malic Acid ช่วยให้รู้สึกสดชื่น
- Peppermint Cucumber TeaTree Grapefruit ช่วยเรื่องของความกระชับ ลบรอยดำ กระจ่างใส
- Orange Avocado Collagen Hyaluronic Acid ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวกลับมาดูมีน้ำ เปล่งปลั่งมากขึ้น
อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้มาลองกันนะคะ เพราะเจ้ก็กำลังลองเหมือนกัน กว่าจะรู้สึกว่าดี ขนาดที่กล่าวมาข้างต้นก็คงต้องใช้เวลาพิสูจน์ด้วยละค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้เจ้ซื้อเพื่อฟังก์ชัน ที่ตอบโจทย์เรื่องมีเวลาน้อย เพราะเวลาส่วนใหญ่เจ้ทุ่มให้กับการคอนทัวร์กรามและเหนียง อิอิ ดังนั้น เพื่อลดขั้นตอนและเวลาได้เยอะเลยล่ะค่ะ 555 ยิ่งวันไหนตื่นสายนะ ดีงามมากค่ะคุณ! สนนราคาแพคใหญ่ 1404¥ ใช้ได้ 1 เดือนเลยค่ะ (มี 32แผ่น) ซีลมาแน่นหนาดีงามสุด ๆค่ะ อ่ะใครมาญี่ปุ่นก็หาซื้อได้ตามร้านขายยาที่ญี่ปุ่นเลยจ้า
3.Kose Clear turn White
มาส์กชีท บำรุงผิวหน้าที่ส่วนตัวใช้แล้วติดใจมาก ๆ จนอยากแนะนำ สูตรที่ชอบคือ ไฮยาลูลอน กล่องสีชมพู สรรพคุณหลัก ๆ ก็คือ ทำให้หน้าขาว หน้าเด้ง นุ่ม และไม่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอลล์ อย่าเชื่อถ้ายังไม่ได้ลอง แต่ถ้าได้ลองเชื่อว่าอาจจะติดใจตั้งแต่ครั้งแรกก็เป็นได้ค่ะ จริงๆ ยี่ห้อนี้นางมีหลายสูตรออกมา สนองปัญหาสาว ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซองสีฟ้า สูตรคอลลาเจน , ซองสีส้ม สูตร Q10, ซองสีเหลืองสูตรหน้าขาววิตามินซี ฯลฯ
ใครมีปัญหาอะไร เลือกใช้ได้ตามสะดวกเลยนะคะ ตัวมาส์กชีท Clear turn จะมีแพคเกจ 2 แบบคือแบบรวม กับแบบแยกชีท ถ้าใครชอบความ เข้มข้น ของมาส์กซื้อแบบแยกชีท 1 ต่อ 1 เลือกใช้ในวันที่ต้องการความเด้ง ปัง จะได้ความเข้มข้นมากกว่า แต่ถ้าใครชอบมาส์กทุกวันซื้อแบบรวมก็ได้จะได้ประหยัดหน่อยค่ะ
4.Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดสูตรน้ำ เนื้อบางเบาพิเศษ ด้วยประสิทธิภาพการปกป้องสูงสุดยาวนาน ไม่เหนียวเหนอะหนะ Watery Hydrate Essence เนื้อผิวสัมผัสของกันแดดที่ทุกคนชื่นชอบ เพราะเป็นเนื้อเอสเซ้นส์ สูตรน้ำ บางเบาพิเศษ ซึมเร็ว ไม่เป็นคราบ สามารถทาทับเมคอัพ ได้ระหว่างวัน ถึงแม้แห้งเร็ว ซึมเร็วแต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมของ Hyaluronic Acid, Royal Jelly Extract (สารสกัดนมผึ้ง) และ Mixed Citrus ที่สำคัญใช้แล้วทำให้แต่งหน้าติดทน (ความคิดเห็นส่วนตัว) กันแดดชิ้นนี้สามารถป้องกันได้ทั้งน้ำและเหงื่อด้วยค่ะ
ปล.เมืองไทยก็มีจำหน่ายนะคะ แต่ใครที่อ่อนไหวต่อราคาก็รอช่วงที่จัดโปรโมรชั่น แต่ถ้าใครมาญี่ปุ่นไปตึกม่วงโลดค่ะ ราคาน่ารักที่สุดแล้ว
5.ALLIE Kanebo
ครีมกันแดด Allie จากค่าย Kanebo อีกหนึ่งครีมกันแดดที่เจ้ชอบมาก ๆ ใช้แทบจะทุกวัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเร็ว แต่งหน้าติดทนมาก ๆ ค่ะ สินค้าในไลน์นี้จะมีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน และทุกตัวจะมี
– สารป้องกันแดด SPF 50+ PA++++
– มอยส์เจอร์ไรเซอร์
– ไฮยาลูลอนิค เอซิด และ
– คอลลาเจนผสมด้วยทุกตัวจ้า
สินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ตอนนี้เป็นโฉมใหม่ที่เพิ่งจะปรับปรุงล่าสุด โดยความพิเศษของโฉมใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ความคงทนของกันแดดที่จะอยู่ยงคงกระพัน (เค้าว่างั้น) แม้จะมีการซับเหงื่อที่ผิวหน้าระหว่างวัน ตามข้อพับแขนต่าง ๆ ที่มีเหงื่อออกเยอะจะไม่นำกันแดด ที่ทาให้ลอกหลุดตามเหงื่อไปด้วย หรือแม้แต่บริเวณแขน ข้อมือที่สาว ๆ ชอบนำกระเป๋าไปคล้องกับ หูจับกระเป๋า ณ.จุดนั้น ๆ ต่อให้มีการเสียดสีระหว่างผิวหนังและหูจับกระเป๋า แต่กันแดดจะไม่หลุดลอก หรือจางหายไปจ้า ยังคงปกป้องผิวได้ดีกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี Friction Proof ของทางแบรนด์นี่ล่ะค่ะ
เอาล่ะเราไปดูกันแดดแต่ละตัวดีกว่ามีสรรพคุณอย่างไรบ้าง ซึ่งจะแบ่งแยกเป็นรายตัวดังนี้ค่ะ
1.Extra UV GEL (สีฟ้า)
เนื้อของผลิตภัณฑ์เป็นแบบเจล บางเบา มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ความชุ่มชื้นและไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว
จุดเด่น : เป็น Super water proof คือทนต่อน้ำและเหงื่อ วันไหนออกข้างนอกแดดแรง เหงื่อเยอะ ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ
2.Extra UV Perfect
เป็นครีมกันแดดเนื้อน้ำนม ผิวสัมผัสจะข้นนิดนึงแต่ไม่มีความเหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วจะซึมไปกับผิวเลย เหมาะสำหรับใช้กับหน้าและตัว (เหมือนกับ Extra UV Gel ต่างกันแค่เนื้อสัมผัส และ แพ็คเกจจิ้งที่เป็นแบบขวดค่ะ)
จุดเด่น : เป็น Super water proof คือทนต่อน้ำและเหงื่อ วันไหนออกข้างนอกแดดแรง เหงื่อเยอะ ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ
3.Extra UV Facial Gel (สีชมพู)
ครีมกันแดดเนื้อเจล ที่เหมาะสำหรับสาว ๆ สายแต่งหน้า เพราะเนื้อของกันแดด และเครื่องสำอางค์จะไม่เป็นคราบ อีกทั้งยังทำหน้าที่คล้าย ๆ กับ make up base ไปในตัวอีกด้วย
จุดเด่น : เหมาะสำหรับใช้กับหน้าอย่างเดียวเท่านั้น water proof ทนต่อเหงื่อ และเหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
4.Extra UV BB Gel
สามารถใช้เป็นทั้งกันแดด และรองพื้น BB เนื้อ water base ที่ปกปิดแบบธรรมชาติ ไม่เป็นคราบเมื่อแต่งหน้า มี water proof ช่วยป้องกันเหงื่อ และการหลุดลอกของกันแดด
6.Illumi Skin UV essence
สำหรับกันแดดที่กำลังฮิตที่ญี่ปุ่นในตอนนี้ก็คงจะเป็นแบรนด์ Illumi Skin UV essence ที่มีจุดขายคือ เป็นครีมกันแดดที่มีเนื้อครีมสีม่วงลาเวนเดอร์ ช่วงปรับความสว่างบนใบหน้าให้ขาว นวลผ่อง และยังปกป้องแสงแดดด้วย SPF 50+ PA ++++ พร้อมมี essence บำรุง และยังได้รางวัลการันตีจาก Cosme อีกด้วยจ้า …ถึงว่าขายดี จนบางร้านสต๊อกหมดค่ะคุณ!!
ด้วยความที่เป็นเนื้อครีมที่มีส่วนผสมของ essence ด้วยก็เลยทำให้เมื่อทาลงบนผิวจะมีความชุ่มชื่น ผิวไม่แห้งตึงและไม่แห้งไวในทันที พร้อมกับสีม่วงลาเวนเดอร์ที่เป็นไฮไลท์ของครีมกันแดดของแบรนด์นี้จะช่วยปรับ skin tone ให้ดูขาวขึ้นแต่ไม่วอก ไม่ลอยนะคะ คือดจีย์!… กันเหงื่อได้แต่ไม่ถึงกับ super water proof อาจจะเหมาะกับการใช้ประจำวันมากกว่า ใช้สำหรับการออกไปตะลุยแดดกลางแจ้งนานๆ ค่ะ ลองแล้วรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ อีกด้วยค่ะ
ใครอยากลองไปตำกันได้ที่ร้านขายยาทั่วไปในญี่ปุ่นจ้า ขนาด 80กรัม ราคา 807¥ (รวมภาษีแล้ว) ปล.นางมี 2 แบบให้เลือกนะคะ เป็นแบบเนื้อครีมตามภาพที่ลงไว้ กับแบบสเปรย์ฉีด ขนาด และราคา เท่ากันค่ะ
7.Ettusais Oil Block base
ใกล้ช่วงฤดูร้อนสินค้าที่เหมาะกับช่วงหน้าร้อนก็ผลัดกันนำมาวางบนเชลฟ์โฆษณากันน่าดู และสินค้าที่กำลังฮอตในตอนนี้นอกจากครีมกันแดดนั่นก็คือ “Ettusais Oil block base” เป็นเบสชนิดน้ำ ใช้ทาควบคุมความมันบริเวณ T-zone สำหรับคนที่มีปัญหาหน้ามัน โดยเฉพาะ บริเวณจมูก
เมื่อใช้ Oil block base ทาบริเวณที่มันหลังจากบำรุงผิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็แต่งหน้าต่อได้ทันที ผลที่ได้ก็คือ ในส่วนของบริเวณที่ทา ผิวจะรู้สึกแห้งลื่น มีความแมทขึ้นมาทันตา ซึ่งเจ้าตัวออยล์บล็อกนี้ จะไปทำให้ผิวเนียนเรียบไม่มันวาว และส่งผลให้รูขุมขนดูเล็กลง แป้งไม่ตกร่อง และยังได้รางวัล การันตีจาก Cosme อีกด้วยนะคะ มีคนคอนเฟิร์มให้แล้ว อย่างนี้น่าลอง!!!
สนนราคา 1,200¥ หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปในญี่ปุ่นจ้า
ปล. ช่วงนี้อาจจะขายดีกันสักหน่อย เพื่อน ๆ ลองดูที่ร้าน Loft, Plaza ที่มักจะแฝงตัวอยู่ตามห้าง อาจจะหาเจอได้ง่ายกว่าค่ะ ….ที่เมืองไทยก็น่าจะมีจำหน่ายแล้วเหมือนกันค่ะ
เว็บไซต์ : http://www.ettusais.co.jp/items/05121/
8.Biore Hiya Sheet -3°C
ไอเทมนี้บอกเลยเจ้ฟินมากค่ะ … แอบสงสัยว่าทำไมไม่ฮิตที่เมืองไทยนะ คุ้น ๆ ว่าเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ที่เมืองไทยก็มีสินค้าเกี่ยวกับ body sheet จำหน่ายเหมือนกัน แต่ก็คงจะไม่ค่อยเข้ากับวิถีชีวิตประจำวัน ของคนไทยสักเท่าไหร่เลยไม่ค่อยนิยม แต่คือมันดีต่อใจเวลาอากาศร้อนมาก ๆ ค่ะ
โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น อากาศร้อน อบอ้าว รักแร้เปียกจนบางคนก็รู้สึกขาดความมั่นใจไปได้เลย โดยเฉพาะในช่วงที่ ต้องออกไปนอกบ้าน ไปเที่ยวตามสถานที่กลางแจ้งต่าง ๆ จะกลับมาอาบน้ำที่โรงแรม ก็ทำได้ยาก ไม่สะดวก Biore Hiya Sheet ตัวนี้ช่วยได้มาก ๆ จริง ๆค่ะ และความพิเศษของไอเทมนี้ก็คือ นางมาพร้อมกับความเย็นระดับ -3°C คือเย็นจริง สดชื่นจริง และเย็นยาวนานกว่า 30 นาที มีหลายกลิ่นให้เลือกด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นสมุนไพร Herb , กลิ่นดอกไม้ Floral, แบบไม่มีกลิ่น Non-fragrance
สนนราคาแพคใหญ่ 459 เยน, แพคเล็ก 268 เยนค่ะ
ปล. ปกติ body sheet จาก Biore ก็มีทั้งแบบสูตรเย็นธรรมดา กับแบบที่ไม่เย็นให้เลือกหลายกลิ่นมาก ๆ เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้ตามใจชอบ แต่ส่วนตัวเจ้แล้ว ชอบ Biore Hiya Sheet -3°C มันคือที่สุดของความเย็นเลยค่ะ
9. 8×4 Powder spray
สเปรย์ระงับกลิ่นกาย ปกป้องแบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่บอกเลยว่าเป็นไอเทม ที่ถูกร้องขอให้ซื้อกลับมาเป็นของฝากเสมอในยามที่กลับไปเมืองไทย โดยเฉพาะแบรนด์นี้ 8×4 ซึ่งมีทั้งของผู้หญิงและผู้ชายนะคะ
ไอเทมนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมที่ฉุน ๆ แรง ๆของสเปรย์ระงับกลิ่นกาย เพราะกลิ่นของสเปรย์ตัวนี้จะค่อนข้างอ่อน และยังมีแบบ non- fragrance ด้วยซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีน้ำหอมประจำตัวของตัวเองอยู่แล้ว กลิ่นจะได้ไม่ตีกัน แต่ถ้าใครชอบแบบกลิ่นหอมแน่น ๆ ไอเทมนี้ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ค่ะ
10.Riff แผ่นซับเหงื่อใต้วงแขน
แผ่นซับเหงื่อใต้วงแขน เบา นุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว ที่เหมาะสำหรับคนที่มีเหงื่อมาก ที่ไม่ต้องการให้เสื้อ เป็นดวง เป็นด่างบริเวณรักแร้ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้เสื้อสูท เสื้อแจ็กเก็ต ซ้ำ ๆ แผ่นซับเหงื่อคือ คำตอบสุดท้ายค่ะ แนะนำให้เปลี่ยนทุกวันนะคะ ไม่ควรใช้ซ้ำเพื่อสุขอนามัย สำหรับยี่ห้อนี้มี 2 แบบให้เลือก กล่องสีแดงเป็นแผ่นสีมอคค่าเบจ และกล่องสีน้ำเงินเป็นสีขาว 1 กล่องมี 40 ชิ้น สนนราคา 820 เยน
ปล.ใครอ่อนไหวด้านราคาแนะนำว่าไปดูที่ร้าน 100 เยนก็มีจำหน่ายเหมือนกันค่ะ
11.หวี Tsubaki Oil
สุดยอดหวีแห่งปี….หวีมหัศจรรย์ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ ผสมสารบำรุงผมอย่าง Tsubaki oil ที่จะช่วยให้ผมนุ่มสลวย เงางาม เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะคนที่ผมแห้งขาดการบำรุง หรือคนที่ ไม่ชอบใส่น้ำมันบำรุงผม เพียงแค่ใช้หวี Tsubaki Oil ก็จะทำให้ผมนุ่ม มีน้ำหนัก เงางาม คุณค่าที่คุณคู่ควรมากค่ะ
รูปทรงของหวีมีหลายแบบหลายชนิดตามการใช้งานด้วยล่ะค่ะ ทั้งแบบแปรง แบบหาง แบบไม้ ใครชอบแบบไหนเลือกกันได้ตามสบายเลยนะ ต่อไปนี้ผมจะนุ่ม มีน้ำหนัก เงางาม สะบัดบ๊อบสักกี่รอบ ผมก็ไม่พันกัน เพียงแค่มีสุดยอดหวีจากญี่ปุ่นก็เอาอยู่จ้า !!!!
นอกจากนี้ยังมีหวีป้องกันไฟฟ้าสถิตด้วยนะคะ ผลิตภัณฑ์หวีที่ญี่ปุ่นมีให้เลือกเยอะมาก ละลานตากันเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่มีแค่สรรพคุณที่บอกไปข้างต้น นอกจากนี้ยังมีคอลลาเจน และ ไฮยาลูลอนในหวีด้วยเช่นกัน
เอาเซ่!!!! ขนาดเจ้ คนที่ไม่ชอบหวีผม ยังต้องปลื้มปลิ่มกับการใช้หวี ….มันดีงามมากค่ะคุณขา.. รักเลยล่ะ ^^ อย่าเชื่อจนกว่าจะได้มาลองกันด้วยตัวเอง หาซื้อได้ที่ร้านขายเครื่องสำอางทั่วไปในญี่ปุ่น หรือในร้าน Loft ราคาเริ่มต้น 513¥ เป็นต้นไป แต่ใครที่อ่อนไหวต่อราคาไปดูได้ที่ร้าน 100 เยนก็มีจำหน่ายจ้า
12.Liese Reset Styling Sheet
แผ่นใช้สำหรับเช็ดผม ก่อนการจัดแต่งทรงผมใหม่อีกครั้ง เหมาะสำหรับนักกีฬา หรือ สาว ๆ ที่ต้องการเปลี่ยนทรงผมหลังเลิกงานก่อนไปปาร์ตี้ โดยแผ่นชีทที่ว่านี้จะทำหน้าที่ในการทำความสะอาด เส้นผมที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งเส้นผมเช่น เจล แว๊กซ์ สเปรย์ ฯลฯไปก่อนหน้านี้ ให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนการทำการเซ็ตผมใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะมีส่วนผสมของออยล์บำรุงผมด้วย ซองสีชมพูเหมาะสำหรับ สาวผมดัด และซองสีฟ้า เหมาะสำหรับสาวผมตรง 1 แพคมี 5 แผ่น สนนราคา 199 เยน
13.D.UP Eyelashes fixer EX
เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบติดขนตาปลอมอยู่เป็นประจำ กาวติดขนตาแบรนด์นี้ฮอตฮิตมาก ๆ จนติดอันดับจาก @Cosme ด้วยนะคะ เนื้อกาวมีหลายแบบเลือกได้ตามใจชอบ ส่วนตัวเจ้ชอบแบบ Clear type ตอนที่ทาเนื้อกาวจะเป็นสีขาวแต่พอแห้งแล้วจะไม่มีสีค่ะ ที่เมืองไทยก็มีจำหน่ายแล้วนะคะ (ถ้าจำไม่ผิด) สิ่งที่ควรค่าแก่การซื้อเป็นของฝากสำหรับแบรนด์นี้ ก็คือ แพคเกจที่ร่วมมือกับ Hello Kitty ที่บอกเลยว่าคนรับฟินลืม สนนราคา 972 เยนค่ะ
14.Shiseido ขนตาปลอม
จริง ๆ ในญี่ปุ่นมีขนตาปลอมออกมาหลายแบรนด์ให้เลือกมาก ๆ ใครถูกจริตแบรนด์ไหน ก็เลือกกันได้ ตามใจชอบเลยนะคะ ส่วนตัวเจ้แล้วชอบ Shiseido ค่ะ มี 4 ดีไซน์ให้เลือก เพราะดูเป็นธรรมชาติ ติดง่าย ไม่เจ็บ ไม่ระคายเคือง ที่สำคัญดูไม่หลอกลวง ไม่เยอะ ไม่แน่นจนเกินไป แต่ถ้าใครชอบแบบแฟชั่น ก็ลองดูของ Dolly Wink ที่เป็นเจ้าตลาด หรือไม่ก็ D.UP จะมีดีไซน์เยอะมาก ๆ แต่ถ้าใครอ่อนไหว ต่อราคาเรียนเชิญที่ร้าน 100 เยนค่ะ
ปล.ที่เมืองไทยก็มีแบรนด์ไทยที่ขนตาสวย ฟรุ้งฟริ้ง ไม่แพ้กับแบรนด์ของญี่ปุ่นเช่นกัน เผื่อเป็นทางเลือกที่เพื่อน ๆ ที่ไม่ได้มาญี่ปุ่นจะได้ไม่ต้องวอแวกันค่ะ แต่ถ้าใครมาญี่ปุ่นแล้วไม่ได้นำขนตาปลอมมาก็ลองใช้กันดูนะคะ
15.K-Pallet 1Day TATTOO Eyeliner 24hWP
อายไลน์เนอร์ สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการความถึก ทน กันเหงื่อ กันน้ำ การันตีความแน่น 24 ชม. ขอแนะนำ K-Pallet 1Day TATTOO Eyeliner 24hWP ที่เจ้ใช้หมดมาแล้วกว่า 20 แท่ง ไม่แพนด้า ไม่ไหล มี 4 สีให้เลือก Super black, Natural Black, Brown Black และ Deep Brown สนนราคา 1,296 เยน ถ้าเจอช่วงที่มีโปรโมรชั่นก็จะได้สินค้าแบบแพ็คคู่ ในราคาเดิม หรือไม่ก็เป็นไอเทมพิเศษ ที่กันน้ำได้ 2 เท่า (ไม่ใช่สินค้าปกติ แพคเกจสีน้ำเงินจะมีจำหน่ายเฉพาะช่วง)
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับครีมกันแดด SPF, PA มีเพื่ออะไร? ทำไมต้องมี?
สาว ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเจ้าค่า PA และ SPF ที่ปรากฎอยู่บนผลิตภัณฑ์ ทำหน้าที่อะไร ทำไมเราต้องรู้ ถ้าเราเป็นหนุ่มสาวที่ไม่กลัวแก่ ไม่แคร์แดด ต้องดูที่ค่า PA++++ ด้วยค่ะ ยิ่งมีเครื่องหมาย + มากยิ่งทรงพลังมาก ค่า PA จะบ่งบอกถึงการทำหน้าที่ในการปกป้องรังสี UVA ได้อย่างสูงสุด และเจ้ารังสี UVA จะทำร้ายคอลลาเจนที่อยู่ในผิวของเรา และทำให้เราดูชราก่อนวัยนั่นเองค่ะ
ในส่วนของค่า SPF ยิ่งค่ามากยิ่งทรงพลังมาก ซึ่งจะทำหน้าที่ในการปกป้องรังสี UVB ที่ชอบทำร้ายผิวของเราให้คล้ำ ดำ เกิดฝ้า กระ จุดด่าง ดำ แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ที่มี SPF ค่าสูง ๆ นั่นก็หมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นก็จะทำหน้าที่ปกป้องผิวให้ผิวขาวกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ นั่นเองค่ะ
จบตอนที่ 1 กันไปแล้ว ฮู้ว!…ยังมีอีกหลายไอเทมเด็ด ๆ ที่น่าไปโดนมากค่ะ ขอเวลาไปพักสักครู่นะคะ แล้วจะรีบมาเขียนตอนต่อ ๆ ไปให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน อย่าลืมติดตามตอนต่อไปจ้า บ๊าย…บาย
ติดตามพวกเราได้ที่
Facebook Youtube Instagram