หากมีโอกาสได้มาเยือนเมืองทาเตยามะ ในจังหวัดโทยามะ นอกจากการขึ้นเขาทาเตยามะซึ่งเป็น 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ (Holy Mountain) แห่งญี่ปุ่นแล้ว ในเมืองทาเตยามะ ก็ยังมีสถานที่ที่น่าไปอีกมากมายให้เพื่อน ๆ ได้ไปเยือนกัน ลองไปดูกันค่ะว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้างลุยค่ะ
ย้อนอ่าน เส้นทางสู่สรวงสวรรค์ แอลป์ทาเตยามะ ในวันที่หิมะละลาย
ใครขี้เกียจอ่านชมคลิปได้ที่นี่ค่ะ
1.Ashikura Oyama Shrine
ศาลเจ้าโอยามะ (Ashikura Oyama Shrine) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองทาเตยามะ ซึ่งศาลเจ้าโอยามะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แห่งได้แก่ ทาเตยามะโชโจมิเนะฮงจะ, อะชิคุระชูกูคิกังเด็ง และ อิวาคุระมาเอะดาเทะฉะดัง
สำหรับศาลเจ้าโอยามะที่ได้มาเยือนในครั้งนี้คือ ศาลเจ้ากลางอะชิคุระ เป็น 1 ใน 3 ของศาลเจ้าโอยามะ และมีพื้นที่กว้างมาก ๆ โดยมีความกว้างกว่า18,500 ตารางเมตร สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้ยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่ศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นที่มีต้นส้น (ต้นซุกิ) ล้อมรอบ ซึ่งต้นซุกิเหล่านี้มีขนาดใหญ่ประมาน 2 เมตร ซึ่งมีจำนวนกว่า 120 ต้น และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานธรรมชาติท้องถิ่นของจังหวัดโทยามะอีกด้วยค่ะ
ภายในศาลเจ้าก็มีรูปปั้นหมีด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับประวัติของท่าน Ariyori Saeki หรือเปล่านะคะ
แค่ก้าวขาเดินเข้ามาภายในศาลเจ้าก็รับรู้ได้ถึงความร่มรื่น สงบมาก ๆ แล้วล่ะค่ะ
บริเวณหน้าศาลเจ้า
ภายในศาลเจ้าเข้าไปนมัสการเทพเจ้าได้ค่ะ
สำหรับใครที่ชอบด้านเครื่องราง สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีจำหน่ายด้วยเช่นกันนะคะ
ไอเทมที่ได้รับความนิยมก็คงจะเป็น เครืองรางรูปกบ ที่มีความหมายว่า การกลับมา เพราะคำว่ากบในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Kaeru (かえる) ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า Kaeru(帰る) ที่มีความหมายว่า “การกลับมา” ซึ่งเป็นเครื่องรางที่นักปีนเขานิยม เพื่อให้เดินทางกลับมา อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้เองเจ้ก็ยังได้ซื้อเครื่องรางที่ทำจากกระดาษสา เป็นยันต์ที่คนญี่ปุ่นบอกว่า ให้ติดไว้ที่ ประตูบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามา นำพาแต่สิ่งที่ดี ๆ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ ใครสบายใจแบบไหนก็จัดเลยค่ะ
พิกัดจาก Google map:
2.Kyosanbo Former Monk’s Lodging
สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงามอีกหนึ่งแห่ง อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าโอยามะ ซึ่งสวนแห่งนี้ อยู่ในบริเวณที่ ในอดีตเคยเป็นที่พักของพระญี่ปุ่น จำนวน 33 รูป โดยส่วนของสวนเปิดให้คน เข้าชมได้ ตัวอาคารสร้างจากปลายสมัยเอโดะ (ประมาณปี 1820) โดยมีแรงบันดาลใจมาจาก การจัดสวนมาจากเกียวโต ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีต้องสวย อย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ และที่สำคัญที่นี่ก็ยังมีบ่อปลาคราฟใช้ชมอีกด้วยนะคะ เจ้เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมามัวแต่ สะพรึงกับสวนและใบเมเปิลค่ะ
พิกัดจาก Google map:
3.Emmado Shrine
ศาลเจ้า Enmado Shrine เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความเชื่อว่าจะชำระล้างจิต และกาย ให้บริสุทธิ์ก่อนเดินทางไปแสวงบุญบนภูเขา
บริเวณด้านหน้าศาลเจ้าจะมีรูปปั้นทำจากหิน ที่เรียกว่า “Jizo” ที่มีอายุหลายร้อยปี เรียงรายกันเป็นจำนวนมากไปตามเส้นทางนำไปสู่ ยังอีกโลกหนึ่งตามความเชื่อของ ศาสนาพุทธ
พิกัดจาก Google map:
4.Nunobashi Bridge
ในสมัยก่อนผู้หญิงจะไม่สามารถเดินทางขึ้นไป บนภูเขาได้โดยภูเขาทาเตยามะ เป็นภูเขาที่มี ความเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า ดังนั้น ในบริเวณใกล้เคียงกับศาลเจ้าแห่งนี้ จึงมีสะพาน ที่มีชื่อว่า “Nunobashi” เป็นสะพานสีแดงที่เชื่อมพื้นที่ที่มีความเชื่อที่ ว่าโลกปัจจุบัน และโลกหลังความตายเพื่อเดินทางสู่สวงสวรรค์นั่นเองค่ะ
โดยทุก ๆ 3 ปีก็จะงานประเพณีที่สืบต่อกันมามีชื่อว่า “Nunobashi Kanjoe Purification Ceremony” จะมีการปูผ้าสีขาว ทอดยาวตั้งแต่ศาลเจ้า Enmado Shrine ไปยังสะพาน Nunobashi เพื่อให้สตรีผู้ที่ต้องการแสวงบุญ ได้มีโอกาสเดินทางข้ามสะพาน โดยการชำระล้างจิตและกายให้บริสุทธิ์ แต่การเดินทางข้ามสะพานนั้นจะต้อง ปิดตา เดินข้ามสะพาน ซึ่งสาเหตุที่ต้องปิดตาก็เพราะมีความเชื่อที่ว่า สตรีผู้นั้นจะได้มีจิตที่ตั้งมั่น ไม่เห็น ภูต ผี ที่อยู่ใต้สะพาน ที่จะคอยเป็นอุปสรรคมาขัดขวางการเดินทางไปสู่สวงสวรรค์ นั่นเองค่ะ โดยงานเทศกาลครั้งต่อไปจะจัดในช่วงเดือน กันยายน 2020 ค่ะ
พิกัดจาก Google map:
5.Mandala Yuen Open Air Museum
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Mandala Yuen Open Air Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่ให้ความรู้ ทางด้านพุทธศาสนา มีการนำศิลปะ และวิทยาศาสตร์มาประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นภายใน และพื้นที่ภายนอก มีทั้งสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณ บ้านพักของเศรษฐีที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 และบ้านสไตล์ Gassho
นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์สงวนหาชมได้ยากอย่าง “เลียงผา” (Serow) เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกันกับแพะ แต่ตัวมีขนาดสูงใหญ่กว่า มีเขา ซึ่งในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีทั้งหมด 6 ตัว ว้าว มาก ๆ ค่ะ เพราะเกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเลียงผาตัวเป็น ๆ
ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ถ้าคนที่ชอบศิลปะ และศาสนาพุทธก็คงจะอิน เพราะมีการสื่อถึงนรก สวรรค์ มีการดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ วิวสวย ได้ชมศิลปะด้วยคุ้มค่าเลยล่ะค่ะ โดยค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 650 เยน ค่ะ
พื้นที่กลางแจ้งกว้างใหญ่มากค่ะ เข้ามาเดินแล้วรู้สึกได้ถึงอากาศบริสุทธิ์ รับโอโซนมาเต็ม ๆ
เห็นแค่ภาพก็คงไม่ต้องเดากันแล้วนะคะว่าว่าจุดนี้ถูกจำลองให้เป็นดินแดนอะไร
มองออกไปไกล ๆ ด้านซ้ายมือมีสะพานทอดยาวที่แอบหวาดเสียวนิด ๆ รอให้เราไปเดินค่ะ
มาดูด้านในของพิพิธภัณฑ์กันบ้างดีกว่านะคะ โดยภายในของพิพิธภัณฑ์ก็จะมีธีมต่าง ๆ นรก และสวรรค์ เชื่อว่าเพื่อน ๆ เห็นจากภาพก็น่าจะพอเดากันได้ใช่ไหมคะว่าส่วนไหนเป็นนรก ส่วนไหนเป็นสวรรค์
เดินมาถึงโซนนี้ ฟินสุด ๆ ค่ะ เพราะได้อารมณ์ความสงบ ผ่อนคลาย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วยนะคะ แล้วถ้าได้เข้าไปด้านในนี้สามารถนอนพักสายตา กำหนดลมหายใจของตัวเองรู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ
พิกัดจาก Google map:
หากใครแพลนมาเที่ยวเมืองทาเตยามะ แล้วก็อย่าลืมแวะเที่ย่ว 5 สถานที่ ที่นำเสนอไปนะคะ เมืองนี้ไม่ได้มีแต่ภูเขาอย่างเดียวนะคะ วัฒนธรรม ศิลปะ และความงามตามธรรมชาติก็น่าสนใจ แต่ละที่ก็ได้ความรู้ และได้ชมวิวธรรมชาติที่หาดูได้ยากอีกด้วยค่ะ
ติดตามพวกเราได้ที่
Facebook Youtube Instagram Twitter
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.