ต้องรู้!!! ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น แอพลิเคชั่นดี ๆ ที่สายโซเชียลต้องมี Japan Wi-Fi auto-connect

หลังจากที่ได้รับข้อมูลหลังไมค์มาถามกันมากมายเกี่ยวกับการเตรียมตัวมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น มีหนึ่งคำถามที่สาวแซ่บคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์เพราะหลาย ๆ คนสอบถามกันมามากมายถึง “ญี่ปุ่นมี Free Wi-Fi ให้ใช้ไหม?” “Free Wi-Fi ปลอดภัยหรือเปล่า?” ซึ่งวันนี้ใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยวญี่ปุ่น เตรียมตัวกันให้พร้อมค่ะ สาวแซ่บมีแอพลิเคชั่นดี ๆ ที่จะมาแนะนำถ้าใครพลาดบทความนี้ อาจจะเสียใจก็ได้นะคะ

ไม่ได้ติดโซเชียล แต่ขาด Wi-Fi ไม่ได้

ในยุคนี้ ก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่า Wi-Fi ก็กลายเป็นสิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่เราแทบจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสายหาข้อมูล สายแชะ สายแชท และสายเช็กอินที่ต้องมี Wi-Fi เอาไว้ใช้ในการติดต่อและใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น เวลาหลงทาง หรือต้องการค้นหาเวลารอบรถไฟ รวมถึงใช้แปลภาษาในการสื่อสาร ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ

Free Wi-Fi ในญี่ปุ่นมีจริงหรือ?

ที่ญี่ปุ่นมีจุดส่งสัญญาณให้บริการ Free Wi-Fi หลายแห่งมาก ๆ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ทราบว่ามีที่ไหนบ้าง และเราอยู่ใกล้กับจุดกระจายสัญญาณ Free Wi-Fi หรือเปล่า ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเราใช้ แอพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “Japan Wi-Fi auto-connect” ซึ่งเป็นแอพลิเคชั่นที่ได้รวบรวมสปอตเชื่อมต่อ Free Wi-Fi ตัวแรงๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเอามาไว้รวมกัน ซึ่งการใช้งานไม่ยากเลยค่ะ ที่สำคัญคือใช้ฟรี! สัญญาณดี เน็ตแรง และปลอดภัยด้วย ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมแล้วตามไปอ่านกันต่อได้เลย

สำหรับคนขี้เกียจอ่าน ชมคลิปรีวิวการใช้งานได้ที่นี่ :

การใช้งาน Japan Wi-Fi auto-connect

1. ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น “Japan Wi-Fi auto-connect” ลงบนสมาร์ทโฟนของเรา ไปที่ app store หรือ Google Play แล้วพิมพ์คำว่า “Japan Wi-Fi auto-connect”

ดาวน์โหลดได้จากลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ

iOS : https://apps.apple.com/th/app/japan-wi-fi-auto-connect/id1461015351

Google Play Store : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.nttbp.jw2

หรือสแกน QR Code จากภาพด้านล่างนี้ได้เลย

*** สมาร์ทโฟนจากประเทศจีน เช่น vivo, Xiaomi เป็นต้น ไม่สามารถใช้บริการแอพลิเคชั่นนี้ได้

2.ลงทะเบียนตามขั้นตอน

3.เลือก Nearby Wi-Fi เพื่อดูว่าบริเวณใกล้เคียงกับเรามีจุดกระจายสัญญาณที่ไหนบ้าง จะมีตัวเลขที่วงกลมด้วยสีแดง เพื่อแสดงจุดกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ใช้บริการฟรี

4.เมื่อเลือกบริการ Free Wi-Fi ที่เราต้องการได้แล้ว ก็กดที่คำว่า Route เพื่อไปยังจุดกระจายสัญญาณ จากนั้นหน้าจอก็จะเปลี่ยนไปเข้าโหมด google map เพื่อให้เราเดินตาม

5.เมื่อไปถึงยังจุดส่งสัญญาณ Free Wi-Fi แล้ว ให้เราออกจากแอพแล้วเข้าไปที่

– Settings

– เปิด Wi-Fi : ON

– เลือกเครือข่าย Free Wi-Fi ทำการกดเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณ

– เมื่อเข้าได้แล้ว ก็จะมี notification จาก Japan Wi-Fi auto-connect เด้งขึ้นมาที่หน้าจอ เราก็สามารถเข้าไปตรวจสอบที่แอพได้ว่า ขณะนี้ได้เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ให้เราแล้วหรือยัง

หน้าจอแสดงสถานะว่าได้เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi กับจุดที่ให้บริการเรียบร้อยแล้ว

6.การใช้งาน Free Wi-Fi ของแต่ละเครือข่ายจะมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป เช่น ให้ใช้บริการได้ครั้งละ 60 นาที หรือ ใช้ต่อสัญญาณไวไฟได้ฟรี 5 ครั้งต่อวัน ครั้งละไม่เกิน 60 นาที เป็นต้น

ต่อสัญญาณ Wi-Fi ได้แล้ว เช็กความแรงกันหน่อย

เมื่อทำการทดสอบความแรงของสัญญาณ Wi-Fi ดูแล้วบอกเลยว่า แรงสมชื่อจริง ๆ ค่ะ สามารถรับชม VDO ความชัดระดับ 4K ได้แบบไม่มีสะดุด สามารถ VDO Call ผ่าน LINE application ได้ แบบไม่มีสะดุดเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยล่ะค่ะ

เช็ก speed ของสัญญาณ Wi-Fi ที่ใช้ ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ดู VDO ความชัดแบบ 4K จาก YouTube ได้แบบไม่สะดุด

VDO Call สัญญาณก็ดีไม่มีสะดุด ภาพชัดแจ๋ว ไม่กระตุก สุดยอดเลย

Japan Wi-Fi auto-connect สะดวก ใช้งานดี เน็ตแรง ปลอดภัย

สำหรับข้อสรุป สำหรับการใช้งาน Japan Wi-Fi auto-connect ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจ เพราะสัญญาณไวไฟ แรง ไม่สะดุด หาง่ายเพราะมีแอพลิเคชั่นที่คอยช่วยนำทาง แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับการเดิน LIVE เพราะถ้าเดินออกนอกพื้นที่กระจายสัญญาณก็จะทำให้ Wi-Fi หลุดได้ค่ะ ซึ่งเหมาะแก่การใช้งานที่ไม่ได้ออกนอกบริเวณ แอพลิเคชั่นเชื่อถือได้ ปลอดภัย หาจุดเชื่อมต่อ Free Wi-Fi ได้ง่าย แม้แต่ร้านสะดวกซื้อก็มี

แอพพลิเคชั่นดี ๆ แบบนี้ไม่แนะนำต่อไม่ได้แล้วค่ะ …อย่าลืมติดตั้งแอพลงบนมือถือ ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะคะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมต่อได้ที่ https://www.ntt-bp.net/jw-auto/en/index.html

หากต้องการเช่า Pocket WIFI แบบพกพาในญี่ปุ่น ก็สามารถดูรายละเอียด ที่นี่ ได้

ติดตามพวกเราได้ที่

Facebook Youtube Instagram Twitter