Ouchijuku หมู่บ้านโบราณสมัยเอโดะ อายุกว่า 380 ปี ที่ Fukushima

ที่มาของหมู่บ้านโบราณ

Ouchijuku (โออุจิจุคุ, 大内宿) หมู่บ้านโบราณอยู่ที่จังหวัด Fukushima ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1640 ตรงกับสมัยเอโดะ โดยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเส้นทางแวะพัก ของซามูไรในยุคนั้นเวลาที่ต้องการจัดซื้อข้าวสาร อาหารต่าง ๆ ก็มักจะเดินทางเท้าและมาแวะพักที่หมู่บ้านแห่งนี้ เพราะมีทั้งอาหารและที่พักพร้อมต้อนรับนักเดินทาง ก่อนที่จะเดินทางไปต่อยังเมืองปลายทาง เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางหลักของการคมนาคมการค้าระหว่างอาณาจักร์ไอสึ (Aizu) จ.Fukushima และเมืองข้างเคียง Imaichi จ.Tochigi อีกด้วย เมื่อกาลเวลาผ่านไป การคมนาคมมีการพัฒนาปรับปรุง ตัดถนนเส้นใหม่ ก็เลยทำให้ผู้คนเลือกเส้นทาง การเดินทางที่สะดวกขึ้น และไม่ค่อยผ่านมายังหมู่บ้าน Ouchijuku กันเท่าไหร่นัก

Ouchijuku ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์อันทรงคุณค่าของญี่ปุ่น

ปี 1981 หมู่บ้าน Ouchijuku ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งภายในหมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านโบราณสไตล์เอโดะ หลังคามุงจากด้วยต้นหญ้า Susugi (ススキ) ที่เป็นภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่น ในฤดูร้อนก็ช่วยให้เย็น ฤดูหนาวก็ช่วยให้อบอุ่นแต่ติดไฟง่าย ดังนั้นในวันที่ 1 กันยายนของทุก ๆ ปีจะมีการปล่อยน้ำ เพื่อป้องกันไฟไหม้ในหมู่บ้านนี้ด้วย ในการดูแลรักษาหลังคา ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ช่วยกันบำรุงรักษา ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษ Kayate (茅手, かやて) ที่จะเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือ ดูแล และปรับปรุงหลังคาให้คงลักษณะไว้ดังเดิม

 

หมู่บ้าน Ouchijuku จะมีบ้านโบราณ 40 – 50 หลังเรียงรายทั้งสองฝั่งเป็นระยะทางกว่า 500 เมตร บ้านหลาย ๆ หลังได้มีการบูรณะปรับปรุงใหม่ บ้างก็ปรับปรุงเป็นร้านอาหาร ร้านค้าที่ขายสินค้าท้องถิ่น บ้างก็ทำเป็นที่พัก เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบโบราณได้เข้ามาใกล้ชิด สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบท้องถิ่นจริง ๆ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็เพลิดเพลินไปกับการเที่ยวชมหมู่บ้านโบราณนี้เช่นกัน สามารถมาเที่ยวชมความงาม ได้ทุกฤดูกาลซึ่งจะสวยงาม แตกต่างกันออกไป

เมนูไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน Ouchijuku

ไฮไลท์เมื่อมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ต้องลองชิม โซบะต้นหอมยักษ์ หรือ Negi soba (ネギそば) ซึ่งเป็นเมนูท้องถิ่นประจำของที่นี่ มีหลายร้านให้เลือกลองชิมเลยนะคะ จริง ๆ แล้วเมนูนี้มีชื่อเรียกว่า อีกชื่อหนึ่งว่า Takato Soba (高遠そば) เป็นเมนูยอดนิยมของชาวไอสึ (Aizu) ในจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ค่ะ โซบะต้นหอมยักษ์ จะเสิร์ฟมาพร้อมกับหัวไช้เท้าขูด ปลาคัทสึโอะสไลด์ และไฮไลท์ก็คือจะมีต้นหอมยักษ์ที่ใช้แทนตะเกียบ ที่จะได้กลิ่นหอมของต้นหอมและสามารถกัดกินไปพร้อม ๆ กับเส้นโซบะได้ ต้นหอมสายพันธุ์ที่นำมากินกับเมนูนี้บริเวณปลายของต้นจะมีลักษณะที่โค้งเล็กน้อยคล้ายกับตัว “J” ซึ่งจะทำให้ตักและกินได้ง่าย เราสามารถเลือกได้ทั้งแบบร้อน และแบบเย็น

ตักเส้นแบบนี้ แรก ๆ อาจจะยากสักหน่อยนะ

 

ตักได้แล้ว เย้ๆ ซู๊ดกินได้เลยจ้า

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม : ชื่อของ Takato soba ก็มีตำนานเล่าขานกันว่าเมื่อสมัยที่ Masayuki Hoshina ท่านเจ้าเมืองไอสึ(Aizu,会津) ได้กลับจากการไปเยือน Nagano ได้มีหนึ่งในผู้ติดตามท่านเจ้าเมืองกลับมาด้วยจากตระกูล Takato ของ Nagano ซึ่งเขาได้กินโซบะที่ราดด้วยหัวไช้เท้าขูด กับต้นหอมยักษ์ ซึ่งทำให้ชาวไอสึเกิดความแปลกใจ เขาจึงได้อธิบายวิธีการกินโซบะสไตล์ของเขาให้แก่ชาวเมืองได้ทราบ และชาวเมืองไอสึก็ได้บอกปากต่อปาก และเรียกโซบะสไตล์นี้ว่า Takato Soba นั่นเอง

Akabeko วัวแดงของฝากเมื่อมาเยือน Ouchijuku

ของฝากที่ถือว่าเป็นเครื่องรางมงคลท้องถิ่นของชาว Aizu นั่นก็คือ Akabeko หรือ วัวแดง ที่ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายไม่ให้ทำอันตรายเด็ก ๆ และชาวญี่ปุ่นก็มีความเชื่อว่าสีแดงจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีเหล่านั้นให้ออกไปด้วย เดิมที Akabeko เป็นของเล่นสำหรับเด็ก ๆ ที่ทำจากกระดาษ หรือที่เรารู้จักกันในนาม เปเปอร์มาร์เช่ โดยจะใช้สีแดงทาทับลงไปที่ตัวชิ้นงาน สีแดงในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Aka ส่วนคำว่า Beko ในภาษาท้องถิ่นหมายถึง วัว ดังนั้นเมื่อนำทั้งสองคำมารวมกัน แปลว่า “วัวแดง” นั่นเองค่ะ จะเห็นว่าไอเทมของฝากส่วนใหญ่จะเป็นน้องวัวแดงนี่ล่ะค่ะ

จุดชมวิวมุมสูงของหมู่บ้าน Ouchijuku

จุดชมวิวมุมสูง ที่ไม่ควรพลาด ถ้ามาถึงหมู่บ้าน Ouchijuku แล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องทำเลยก็คือ เดินขึ้นไปยังจุดชมวิว อาจจะทุลักทุเลสักหน่อย เพราะทางเดินค่อนข้างชัน ไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และเด็กเล็ก เพราะอาจจะลื่น พลัดตก หกล้มได้ แต่ถ้าใครสมรรถภาพร่างกายไหวแนะนำว่าขึ้นไปชมค่ะ เพราะวิวสวยมาก แม้อากาศจะไม่เป็นใจ ฟ้าจะเน่าแค่ไหน วิวก็ยังสวยจริง ๆ

ทางเดินขึ้นจะเดินยากสักนิด แต่มีที่จับให้เดินตลอดทาง
จะเดินขึ้นทางนี้ก็ได้ค่ะ แต่บันไดชันมาก ๆ
พอขึ้นมาแล้วจะเจอศาลเจ้าเล็ก ๆ แวะไหว้ขอพรกันสักหน่อย

 

พระพุทธรูปหิน ระหว่างทาง
ได้เห็นวิวแบบนี้ ว้าวมาก ๆ เลย

 

ซูม ซูมเข้าไปอีกนิด ฟินมากมาย หายเหนื่อยเลยค่ะ

 

การเดินทาง : จาก Tokyo นั่ง Shinkansen Tohoku ไปลงที่สถานี Koriyama จากนั้นนั่งรถไฟสาย JR Ban-etsu-Saisen ไปลงที่สถานี Aizu-wakamatsu และเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Aizu ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen แล้วนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาที หรือเดินประมาณ 25 นาทีไปยังหมู่บ้านโออุจิจูคุ

พิกัดจาก Google map:

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.