ตะลุยเที่ยวญี่ปุ่น สุดฟิน ด้วย JR Pass 4คืน5วัน EP 1 (Takayama Hokuriku Tourist Pass)
สวัสดีค่ะ วันนี้สาวแซ่บจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวโดยการเดินทางโดยใช้พาสรถไฟสุดคุ้ม Takayama – Hokuriku Area Tourist Pass พาสเดียวเที่ยวสบายตลอดทั้งทริป สำหรับการเดินทาง 5 วัน ที่สามารถเดินทางครอบคลุมพื้นที่ นาโกย่า, เมืองมรดกโลกชิราคาวาโกะ, โกกายาม่า รวมไปถึงพื้นที่เมืองแห่งทองอย่าง คานาซาว่า, โทยามะ, ฟุคุอิ และไปจนถึงโอซาก้าก็ได้ด้วย
ตะลุยเที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อไปของเพื่อน ๆ จะสนุกขนาดไหน ตามรอยเที่ยวจากเราได้เลยค่ะ บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่ไหนบ้างไปอ่านต่อกันได้เลยค่ะ
เพื่อน ๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาสได้ที่เว็บไซต์นี้ค่ะ : https://touristpass.jp/when_using/en/index.html
Day 1 Nagoya, Gifu, Takayama
พอถึงสถานีนาโกย่า เราก็นำกระเป๋าเดินทางไปฝากยังล็อกเกอร์เอาไว้ก่อนเพื่อความสะดวกและคล่องตัวในการแวะเที่ยวที่ต่าง ๆ แล้วค่อนกลับมารับก่อนเดินทางต่อไป โดยสถานที่แรกที่เราจะแวะไปเช็กอินกันก็คือ
สำหรับ คนขี้เกียจอ่านชมคลิปได้ ที่นี่
ปราสาทนาโกย่า
แวะเช็กอินปราสาทนาโกย่า ปราสาทที่กล่าวขานกันว่าร่ำรวยที่สุด เพราะมีการตกแต่งด้วยทอง ซึ่งณ.ตอนนี้เรายังไม่สามารถเข้าไปชมด้านในของตัวปราสาทได้เพราะมีการปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ แต่เราสามารถเข้าชมพระราชวัง ฮงมารุได้ค่ะ
สัตว์มงคลที่เรามักจะเห็นตามหลังคาปราสาทเรียกว่า sashihoko ตัวเป็นปลาหน้าเป็นเสือ ที่คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า จะช่วยคุ้มครองปราสาทให้รอดพ้นจากไฟไหม้ ซึ่ง sashihoko ที่ปราสาทนาโกย่านั้นมีสีทองผ่องอำไพ จนใครต่อใครมาแล้วต้องแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่ะ และก็มีจุดถ่ายภาพให้เราไปถ่ายกันด้วยนะคะ ตอนนี้แถวยาวมาก ๆ เลย
ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 500 เยน
เวลาทำการ : 9.00 น. – 16.30 น.
การเดินทาง :
รถไฟใต้ดิน: ลงสถานี Shiyakusho ของรถไฟใต้ดินสาย Meijo
รถบัส: ลงป้าย Nagoya-jo Castle Seimon-mae
พิกัดจาก google map: https://goo.gl/maps/TCmQYeFUhEWELyUEA
หลังจากชมปราสาทเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แวะมาจิบกาแฟที่คาเฟ่น้องลูกเจี๊ยบชื่อดังกันสักหน่อย ว่ากันว่าร้านนี้ดังมาก ๆ เพราะมีคิวต่อแถวกันยาวเลยค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่า
Piyorin STATION Cafe Gentiane (ぴよりんステーションカフェジャンシアーヌ)
คาเฟ่น้องลูกเจี๊ยบชื่อดังที่มีแถวย๊าว ยาว ต่อล้นออกมาหน้าร้าน เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่บริเวณ Central concourse ของสถานี JR นาโกย่าค่ะ โดยคาเฟ่นี้มีความตะมุตะมิน่ารักเพราะเมนูเต็มไปด้วยลูกเจี๊ยบสีเหลืองค่ะ ซึ่งก็ไม่มีมีแค่ของหวานเท่านั้นนะคะ เซ็ตเมนูอาหารเช้า อาหารกลางวันที่เป็นอาหารคาวก็มีด้วยเช่นกันค่ะ
วันนี้ได้มาลองชิมเมนู Piyorin set ที่ประกอบไปด้วย พุดดิ้งน้องลูกเจี๊ยบ และเครื่องดื่มชา หรือ กาแฟ เลือกได้แบบร้อนหรือเย็นค่ะ เมนูนี้โดยเฉพาะเค้กพุดดิ้งน้องลูกเจี๊ยบรสชาติอร่อย กลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป มีส่วนผสมทั้งครีม สปองจน์เค้ก และสอดไส้ด้านในด้วยพุดดิ้ง ซึ่งว้าวมาก ๆ มีความหลายชั้น มีเนื้อสัมผัสที่น่าค้นหา กินคู่กับชาหรือกาแฟ อร่อยลงตัวเลยค่ะ เซ็ตนี้ราคา 960 เยน แต่ถ้าใครอยากเพิ่มน้ำตาลน้องลูกเจี๊ยบเราก็สั่งเพิ่มได้นะคะ
นอกจากนี้ยังมีเซ็ตเมนู Piyorin Plate ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับ โยเกิร์ต สลัด ขนมปังปิ้งพร้อมเนย และ เค้กลูกเจี๊ยบ เซ็ตนี้สำหรับคนหิว อร่อยลงตัวค่ะ ราคา 1,380 เยน
และตบท้ายด้วยไอศกรีม Piyorin Sunday ราคา 780 เยน
ร้านเปิด : 7.00น. – 22.00 น.
เว็บไซต์ : https://piyorin.com/shop/gentiane.html
ยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย ขอเดินชมสถานีรถไฟนาโกย่าเล่น ๆ โอ้โห มีโซนร้านอาหารที่ของกินเยอะมาก ๆ ค่ะ เรียกได้ว่ารวมของเด็ดเมนูดังเอาไว้ที่นี่ให้แล้ว ใครเวลาน้อยมาที่นี่ก็จบครบทุกเมนูเช่นกันเลยนะคะเนี่ย
ได้เวลาเดินทางกันต่อไปรับกระเป๋าที่ตู้ฝากแล้วนั่งรถไฟต่อไปลงกันที่สถานี GIFU ค่ะ เราจะแวะเที่ยวเมืองโบราณ Kawaramachi กันก่อน ถ้าพร้อมแล้วไปกันต่อได้เลยค่ะ
Kawaramachi street จ.กิฟุ ย่านโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ
ย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง “กระดาษสาญี่ปุ่น มิโนะวะชิ” ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี ด้วยเทคนิคการผลิตแบบพิเศษที่เรียกว่า “นากาชิสุกิ” ซึ่งจะทำให้กระดาษมีความเหนียวเหมือนเนื้อผ้า และมีความสวยงาม กระดาษสาของเมืองมิโนะ จึงได้รับความนิยมนำมาใช้ในการสร้างสรรค์งานหัตถกรรม เช่น “ร่มกระดาษาสา” และ โคมไฟกระดาษสากิฟุ นั่นเองค่ะ
และนอกจากนี้ กระดาษสามิโนะวาชิยังได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโก้ในปี 2014 อีกด้วยค่ะ
ไหน ๆ ก็มาเยือนย่านโบราณนี้แล้ว และยังขึ้นชื่อเรื่องร่ม เรื่องกระดาษสาญี่ปุ่นด้วย เราไปเช่าร่มมาเดินถ่ายรูปเล่นกันเก๋ ๆ กันที่ ร้าน casa
ร้าน casa ร้านเช่าและจำหน่ายร่มงานฝีมือระดับตำนานกว่า 100 ปี
เป็นร้านขาย และให้เช่าร่มญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เปิดมากกว่า 100 ปี ภายในมีร่มญี่ปุ่นวางเรียงรายเพื่อจำหน่าย และยังมีให้เช่าอีกด้วยค่ะ โดยค่าเช่าร่ม ตกคันละ 3,300 เยน เวลาการเช่า และคืน ก็ขึ้นอยู่กับตามเวลาเปิดปิดของร้านค่ะ
เว็บไซต์ : https://www.teshigoto.casa/
พิกัดจาก Google map: https://goo.gl/maps/YoyEchCM4ZWqPkc78
หลังจากคืนร่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไปสู่สถานี Mino City Station เพื่อที่จะไปยังเมืองโบราณอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Udatsu ที่นี่มีความวิ้งว้าวอยู่ที่กำแพงค่ะ โดยบ้านโบราณแต่ละหลังจะมีกำแพงที่กันไฟได้ เพราะสมัยก่อนเพลิงไหม้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด หากไฟไหม้บ้านหลังหนึ่ง ก็จะไม่ไหม้ต่อ ๆ กันเพราะมีกำแพงที่กันไฟได้เรียกว่า Udatsu ค่ะซึ่งในสมัยก่อนจะไม่ค่อยเห็นกันมากนัก
Udatsu Mino city จ.กิฟุ
เป็นเมืองโบราณอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจ และกล่าวกันว่าคนสร้างเมืองนี้เป็นคนเดียวกันกับเมือง Takayama ดังนั้นบ้านเรือนต่าง ๆ ผังเมืองจึงมีความคล้ายและใกล้เคียงกับทาคายาม่า ตรงโซนย่านเก่าจะไม่มีเสาไฟมาตั้งริมถนนเลย ด้านหน้าของบ้านแต่ละหลังก็จะมีที่ผูกม้า มีโคมไฟที่ทำจากวาชิ หรือกระดาษสาญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟสวยงามมาก ๆ ค่ะ
จะมีร้านสาเก อายุกว่า 240 ปี ที่ออกแบบสร้างหลังคาเป็นแบบโค้งมน หลังคาแบบนี้ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า มุคุริยาเนะ( むくり屋根) ซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนค่ะ ทางร้านตั้งใจทำให้โค้งเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ และขอบคุณลูกค้า จึงทำให้สิ่งก่อสร้างนั้นดูแปลกตาไปจากหลังอื่น ๆ
พิกัดจาก Google map: https://goo.gl/maps/cb5Gc17pCEV8GD8bA
Former Imai Family Residence 旧今井家住宅
ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีการแสดงห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน มีการแสดงโคมไฟ มีสวนแบบญี่ปุ่น ไฮไลท์ก็คือ จุดที่เทน้ำลงหิน แล้วจะได้ยินเสียงสะท้อนของน้ำมีความก้องกังวาลเหมือนกับการตีระฆัง
เมื่อเดินต่อไปก็จะเจอศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหัวใจ ในสมัยก่อนศาลเจ้าแห่งนี้คนในบ้านจะมาขอพรในเรื่องการค้าขายและคุ้มครองให้ครอบครัวมีความสุข ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันกลับมีความเชื่อที่ว่า ถ้ามาลูบบริเวณโคมไฟหินที่มีรูปหัวใจแล้วอธิษฐานก็จะโชคดีในความรัก ซึ่งไม่ได้มีรูปหัวใจเพียงแค่ที่เสาโคมไฟหินเท่านั้นนะคะ บริเวณฐานของรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกก็มีด้วย
ซึ่งในสมัยก่อน รูปหัวใจที่ว่านั้นเปรียบได้กับตาของหมูป่า ซึ่งหมูป่าไวต่อควันไฟ เมื่อมีไฟไหม้ที่ไหน หมูป่าจะได้ยิน และตื่นตัวก่อน ดังนั้นตามปราสาท ศาลเจ้า จึงนิยมสลักลวดลายเป็นรูปหัวใจเพื่อเชื่อในโชคลางที่ว่าจะช่วยป้องกันภัยค่ะ แต่มาในปัจจุบัน สัญลักษณ์รูปหัวใจแบบนี้เรารู้จักกันในนาม “หัวใจ” ตัวแทนของความรักนั่นเอง ก็เป็นอีกหนึ่งกิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการในมาเยือนที่นี่ค่ะ …อย่างน้อยได้มาขอพรให้โชคดีในความรักก็ฟินแล้ว
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน
เว็บไซต์ : http://www.mino-city.jp/jp/tourist/construction01.html
พิกัดจาก Google map: https://goo.gl/maps/MYpUEaDnRaMVTbK37
Mino Washi Lantern Art Gallery (美濃和紙あかりアート館)
กระดาษสาญี่ปุ่น มิโนะวะชิ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี ด้วยเทคนิคการผลิตแบบพิเศษที่เรียกว่า “นากาชิสุกิ” ซึ่งจะทำให้กระดาษมีความเหนียวเหมือนเนื้อผ้า และมีความสวยงาม กระดาษสาของเมืองมิโนะ จึงได้รับความนิยมนำมาใช้ในการสร้างสรรค์งานหัตถกรรม เช่น “ร่มกระดาษาสา” และ โคมไฟกระดาษสากิฟุ นั่นเองค่ะ
และนอกจากนี้ กระดาษสามิโนะวาชิยังได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโก้ในปี 2014
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็กเข้าชมฟรี
เว็บไซต์ : http://www.mino-city.jp/jp/tourist/construction01.html
พิกัดจาก Google map : https://goo.gl/maps/8muo3CZoo7kgtBmC8
เมื่อเก็บพิกัดครบทุกแห่งแล้วเราก็รีบขึ้นรถไฟจากสถานี Mino Ota Station เดินหน้ามุ่งสู่สถานี Takayamaค่ะ โดยคืนนี้เราจะค้างกันที่
โรงแรม Honjin Hiranoya Bekkan
ที่นี่เป็นที่พักเรียวกังที่วิวเทพมาก ๆ มีระเบียงกว้างที่จะได้เห็นสะพานสีแดง nakabashi และแม่น้ำ Miyakawa ซึ่งเป็นจุดชมวิวสุดว้าวของเมือง ทาคายาม่า โดยเฉพาะช่วงซากุระ บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่เรียงรายเลียบแม่น้ำ สวยมาก ๆ ค่ะ
ชมรีวิวโรงแรมได้จาก ที่นี่ ค่ะ
เว็บไซต์ : https://ssl.honjinhiranoya.co.jp/
พิกัดจาก Google map: https://g.page/kachoan?share
Day 2 GIFU TAKAYAMA TOYAMA
ออกจากโรงแรม นั่งรถบัสที่หน้าสถานี Takayama เพื่อไปลงยัง Shirakawago แล้วนั่งรถบัสท้องถิ่นไปลงที่ป้าย Ainokura (Gokayama) เพื่อไปยังหมู่บ้าน Gokayama Ainokura มีลักษณะคล้ายกับชิราคาวาโกะ ที่อยู่ในจังหวัดโทยาม่า
สำหรับคนขี้เกียจอ่าน ชมคลิปได้ ที่นี่ ค่ะ
โกคายามะ หมู่บ้านมรดกโลก หลังคาทรงพนมมือ ว้าวทุกฤดู
ถ้าจะพูดถึงหมู่บ้านโบราณในญี่ปุ่นหลาย ๆ คนคงจะนึกถึงหมู่บ้านที่มีหลังคาสไตล์พนมมือ หรือที่เรียกว่า “กัชโชสึคุริ” (Gassho-zukuri,合掌造り) คือ หลังคาบ้านที่มุงด้วยหญ้าทำให้มีความลาดเอียงคล้ายกับการพนมมือ เหตุที่หลังคาเป็นลักษณะนี้ ก็เนื่องมาจากอยู่ในพื้นที่หิมะตกหนัก หลังคาแบบนี้จะทำให้หิมะที่ทับถมบนหลังคาไหลลงมาได้ง่าย และชื่อเรียกก็ได้มากจากลักษณะของหลังคาที่เหมือนกับการประกบฝ่ามือเข้าด้วยกัน 合:ประกบ, 掌มือ
หมู่บ้านโกะคายามะ (五箇山) สไตล์กัชโช ตั้งอยู่ที่จังหวัดโทยามะ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO) ในปี 1995 โดยภายในหมู่บ้านจะมีบ้านเรือนสไตล์กัชโชจำนวน 20 หลังยังคงอยู่ในหมู่บ้านไอโนะคุระสไตล์กัชโช และหมู่บ้านสุกะนุมะ โดยบ้านส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 100 – 200ปี และบ้านที่เก่าแก่ที่สุดว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 400 ปีที่แล้วเลยทีเดียวค่ะ
ที่หมู่บ้านนี้มีจุดชมวิวหลายแห่งนะคะ ทำให้เราได้มุมถ่ายรูปได้หลาย ๆ มุมเลย ถ้าไปวันฟ้าใสเราจะได้ถ่ายรูปหมู่บ้านคู่กับเจแปนแอลป์ที่เป็นฉากอยู่ด้านหลังค่ะ
ไอเทมเด็ดของหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือ “เต้าหู้โกคายามะ” ซึ่งทำจากวิธีการดั้งเดิมที่ตกทอดกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น โดยตัวเต้าหู้มีปริมาณน้ำเล็กน้อยและมีความแน่นของเนื้อเต้าหู้อย่างเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ไม่แตกยุ่ยแม้ว่าจะมัดด้วยเชือก เต้าหู้ก็ไม่แตก ..ว้าวมากเลยค่ะ
เว็บไซต์ : http://gokayama-info.jp/en/
หากเดินทางมาพร้อมกระเป๋าเดินทางมีที่ฝากกระเป๋าตรงป้านรถบัสนะคะ
การเดินทาง : นั่งรถบัสจาก ทาคายาม่ามาลงที่ ชิราคาวาโกะ แล้วนั่งรถบัสท้องถิ่นมาลงที่ Ainokura หรือ นั่งรถบัสแหล่งมรดกโลกไปที่ Ainokura จากถานี JR ชินทาคาโอกะ ก็ได้ค่ะ
พิกัดจาก Google map : https://goo.gl/maps/fM3xkwrvMbuDkQsh9
ตามรอยมิชิลินไกด์ ชิมอาหารญี่ปุ่นที่ร้าน Marusho Takaoka
เสร็จแล้วนั่งบัสไปลงที่สถานี Takaoka ไปกินอาหารกลางวันกันที่ร้าน Marusho เป็นร้านที่ถูกแนะนำโดย มิชชิลินไกด์ ตั้งแต่ปี 2016 และล่าสุดในปี 2021 เป็นอาหารไคเซกิ เน้นไปที่อาหารทะเลท้องถิ่นในโทยาม่า ทุกเมนูอร่อยกลมกล่อม ฟินมาก ๆ เลย
จานหลักเป็นเซ็ตอาหารย่าง ที่มาในแบบเรือโดยใช้ไม้แอปเปิ้ลเป็นเชื้อเพลิงในการย่างจึงทำให้มีกลิ่นที่หอมมาก ๆ ขนมหวานเป็นพุดดิ้งนมอัลมอนด์ราดมากับซอสสตรอเบอร์รีสด
ราคา 2,900 เยน / เซ็ต (ไม่รวมVatและค่าเซอร์วิส)
เมนู weekday lunch set http://www.marushow.net/dish_ohiru.html
เว็บไซต์ : http://www.marushow.net
พิกัดจาก Google map: https://goo.gl/maps/mUXQGNdKRnBsg47R8
ทำงานฝีมือชิ้นเดียวในโลกที่ Casting Studio Risaburo (鋳物工房 利三郎)
มาถึงถิ่นแร่ดีบุก แล้วเราต้องไปลองสร้างประสบการณ์การทำจานดีบุกกันสักหน่อยค่ะ จริง ๆ ก็ไม่ได้มีแค่จานอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ มีตั้งแต่ถ้วยสาเก แม็กเน็ต ที่วางตะเกียบ ฯลฯ โดยราคาค่าเข้าร่วมกิจกรรม ถ้วยสาเก 4,400 เยน จานเล็ก ๆ ทรงกลมและทรงรี ราคา 3,300 เยน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อเราเลือกชิ้นงานได้แล้ว ต่อไปก็เป็นการวาดลายลงบนพิมพ์ ขั้นตอนนี้ใช้ดีสอวาดค่ะ เซนเซแนะนำว่าไม่ควรเป็นตัวอักษร เพราะชิ้นงานที่ได้จะสลับด้านหน้าเป็นด้านหลัง แต่ถ้าต้องการตัวอักษรก็ต้องเขียนกลับด้านค่ะ
สำหรับสาวแซ่บเลือกทำลาย โลโก้ของครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่นค่ะ ที่พวกเราใช้พิมพ์เป็นกระเป๋า eco เพื่อน ๆ มองกันออกไหมคะว่าใครเป็นใคร
เมื่อเสร็จแล้วเราก็เทแร่ดีบุกที่ลนไฟลงไปในพิมพ์ แล้วรอค่ะ หลังจากนั้นเซนเซก็จะดำเนินการต่อให้ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 20 นาทีก็เสร็จ
ข้อควรระวังในการใช้วัสดุที่ทำจากดีบุก หลีกเลี่ยง กรดต่าง ๆ เช่นน้ำมะนาว น้ำเลมอน ห้ามนำไปแช่ช่องฟรีซจะทำให้ชิ้นงานหดตัว หลีกเลี่ยงกับการใช้ของร้อนจัด และเย็นจัดๆ ค่ะ
เว็บไซต์ : http://www13.plala.or.jp/jinpachi/
พิกัดจาก Google map: https://goo.gl/maps/FVoTTAnq2LzzLsXt9
ตู้ไปรษณีย์โดราเอม่อนสุดคิ้วท์ ที่สถานี Takaoka
แวะส่งโปสการ์ดไปให้พี่อปลุงเป็นที่ระลึกกันสักหน่อยค่ะ ที่ตู้ไปรษณีย์โดราเอม่อน ที่อยู่ที่สถานี Takaoka โดยขึ้นไปซื้อโปสการ์ดที่ร้านขายของที่ระลึกชั้นสองของสถานี แล้วซื้อแสตมป์ที่ร้านสะดวกซื้อ หรือซื้อกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ใกล้ๆ กับตู้ไปรษณีย์ค่ะ แต่ไปรษณีย์บัตรนี้ส่งได้แค่เฉพาะภายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นนะคะ ความพิเศษของโปสการ์ดนี้ก็คือ จะมีตราประทับเป็นโดราเอม่อนค่ะ คิ้วท์ตรงนี้
เมื่อส่งโปสการ์ดเสร็จแล้วเราก็เตรียมตัวขึ้นรถไฟท้องถิ่น (ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้นะคะ ต้องซื้อตั๋วแยกต่างหากค่ะ) เพื่อไปลงที่สถานี Shin Takaoka เพื่อขึ้นรถไฟชินคันเซนไปลงยังสถานี Toyama
เช็กอินที่โรงแรม Excel Tokyu
นำกระเป๋าไปเช็กอินที่โรงแรม Excel Tokyu ซึ่งอยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟ Toyama โรงแรมพิกัดดีงาม มีเครื่องใช้ครบครัน โดยเฉพาะสกินแคร์ มาเต็มสูตร ชนิดที่ว่ามาตัวเปล่าก็เข้าพักได้เลย ที่นี่มีน้ำเปล่าให้ฟรีด้วยนะคะ ดีมาก ๆ เลย
ชมคลิปรีวิวโรงแรมได้ ที่นี่ ค่ะ
เว็บไซต์ : https://www.tokyuhotels.co.jp/toyama-e/index.html?utm_source=google&utm_medium=maps
พิกัดจาก Google map: https://goo.gl/maps/wDo2QaQ4vV8SGJZT8
กินซูชิ เมนูท้องถิ่นที่ร้าน Aburian Toyamazushi
หลังจากนั้นก็ไปรับประทานอาหารเย็นกันที่ Aburian Toyamazushi ซึ่งเป็นร้านซูชิที่สั่งจากไอแพด ลดการสัมผัส มีทั้งเมนูแบบเซ็ต และแบบแยกจาน วัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากจังหวัดโทยาม่า ซึ่งอยู่ติดกับทะเล ดังนั้นเราต้องมาลอง กุ้งหวานกันค่ะ ชิโระเอบิ หวานสมชื่อเลย ที่ห่อมาด้วยแผ่นสาหร่ายที่ดูแพง และแปลกตามาก ๆ ซึ่งก็คือ แผ่นสาหร่ายคอมบุค่ะ ส่วนตัวได้ลองชิมแล้วรู้สึกว่าเหนียวถ้าเที่ยบกับสาหร่ายแผ่นธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่กินแล้วก็เข้ากันกับกุ้งที่หวานมาก ข้าวกลมอร่อย อร่อยเลยค่ะ
และนอกจากนี้ก็ยังมีปลา โนโดะกุโระ ที่อะบุริมา หวานมาก หอมมาก เนื้อเด้งมาก ๆ โฮตารุอิกะปรุงมากับหมึกดำและน้ำส้มสายชู เรียกว่าเป็นแรร์ไอเทมเลยค่ะ และอย่าลืมชิม ปูซูไว ซึ่งเป็นไอเทมเด็ด ๆ ของภูมิภาคนี้เช่นกันค่ะ พวกเราสั่งกันเต็มโต๊ะ จ่ายไปเพียง 14,000 เยนนิด ๆ กินกันทั้งหมด 6 คน ถ้าหารต่อคนก็ตกคนละ 2,000 เยน ก็ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ
ร้านเดินไม่ไกลนะคะอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พัก และสถานีรถไฟเลยค่ะ
เว็บไซต์ : https://aburian-toyamasushi.gorp.jp
พิกัดจาก Google map: https://g.page/aburian-toyamazushi?share
ทริปยังไม่จบนะคะ เรามีด้วยกัน 3 EP เพื่อน ๆ สามารถตามไปอ่านต่อยัง EP2 และ EP 3 ได้ค่ะ
❤️ จองรถไฟ JR CENTRAL WEST ตั๋วรถไฟ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass สำหรับนักท่องเที่ยว ที่นี่
ติดตามพวกเราได้ที่
Facebook Youtube Instagram Twitter
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.